
ประวัติความเป็นมาหุ่นพยนต์
ตั้งแต่สมัยบรรพกาลนานนับแต่ครั้งอาณาจักรขอมเรืองอำนาจ ศาสตร์แห่งไสยเวทย์ลึกลับ ได้แทรกซึมเข้ามาในวัฒนธรรมทวารวดี ละโว้ สืบมาจนถึงปัจจุบันตราบใดนครวัดนครธมยังสามารถดึงดูดจิตใจผองมนุษย์ได้ ไสยเวทย์ก็ยังคงไว้ซึ่งพลังอำนาจต่อผองมนุษย์ตราบนั้น
ในยุคสมัยที่ปราศจากการปู้ยี่ปู้ยำธรรมชาติเพื่อให้เกิดประดิษฐ์กรรมใหม่ๆ เพื่อเซ่นสรวงแก่ความละโมบและความสะดวกสบายของหมู่มวลมนุษย์เฉกเช่นในยุคปัจจุบัน ในสภาวะเช่นนั้นบรรพบุรุษของเรามีวิธีการดำรงชีวิตอยู่อย่างไร พวกเขาแสวงหาสิ่งอันพึงปารถนาอย่างไร พิทักษ์รักษาสิ่งที่ตนปารถนาที่ได้มาแล้วนั้นอย่างไร และจัดการอย่างไรกับผู้ประสงค์ร้ายต่อสิ่งที่ตนปารถนานั้น แม้ในยามทำกลศึกสงคราม หลายตำนานก็กล่าวถึง การผูกหุ่นพยนต์ เข้าสู้รบกับศัตรูเป็นกลลวง หุ่นพยนต์ จึงถือว่าเป็นของกระทำ อีกชิ้นหนึ่งที่ยังมีความศักดิ์สิทธิ์เชื่อถือ
เป็นมรดกตกทอดจนตราบถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับควายธนู วัวธนู กุมารทอง ที่ความกายสิทธิ์พิสดารยังเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้บูชานับถืออยู่อย่างกว้างขวาง
หุ่นพยนต์มีความอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างไร
หุ่นพยนต์ นั้นเป็นของกระทำที่มีอานุภาพ ในด้านการปกปักรักษา คุ้มคน คุ้มทรัพย์สิน คุ้มทั้ อาณาเขตที่ตั้งจิตคิดถึงให้รอดพ้นจากสารพัดภยันตราย ทั้งจากมนุษย์และอมนุษย์ ทั้งสิ่งที่มองเห็นและสิ่งที่มองไม่เห็น เป็นพรายกระซิบ บอกเหตุ เตือนภัยที่กำลังจะมาถึง รับเคราะห์แทนเจ้าของ บอกโชคให้ลาภ บอกหวย เรียกเงิน เรียกทอง เรียกทรัพย์ เสี่ยงดวงพนัน ป้องกันคุณไสยไล่อัปมงคล ไล่ผีเร่ร่อน ช่วยทำมาค้าขาย เรียกคนเข้าร้าน ธุรกิจการงาน เฝ้าบ้าน เฝ้าของ เฝ้ารถ ทรัพย์สินเงินทอง กันขโมย
ด้วยโบราณจารย์ได้ออกกุศโลบายให้สำเร็จประโยชน์ทั้งหมู่มวลมนุษย์และเหล่าเจตภูตเร่ร่อน จึงได้ตรึงเจตภูตเหล่านั้นลงสู่วัตถุธาตุ โดยกำหนดให้มีธาตุขันธ์ พร้อมทั้งอาการทั้ง 32 เพื่อให้ได้มีที่สิงสถิต และจะได้ประกอบกรรมอันเป็นประโยชน์ ต่อสุจริตชนให้ได้รับความอยู่เย็นเป็นสุข และอยู่รอดปลอดภัย อุปเท่ห์การใช้นั้นวิเศษสุดยอดพิสดาร นอกจากอานุภาพในด้านการป้องกันดังกล่าวไปแล้ว
บูชาหุ่นพยนต์อย่างไรให้ได้ผล
ท่านว่า หากโดนให้ร้ายป้ายความ ให้เขียนชื่อศัตรูลงในกระดาษ แล้วนำหุ่นพยนต์ วางทับชื่อนั้นไว้ พร้อมอธิษฐานว่า " หุ่นพยนต์นี้พูดไม่ได้ฉันใด ให้...ชื่อศัตรู...ไม่พูดไม่ใส่ความข้าพเจ้าฉันนั้น " ศัตรูจะกลับใจไม่ให้ร้ายใส่ความแก่เราได้เลย
หรือหากปารถนาจะกระทำสิ่งใดให้มากไปกว่านี้ ก็บอกกล่าวแก่หุ่นพยนต์นั้นเถิด ให้ไปทำแทนเราได้แล
แต่ทว่าจะให้เป็นไปถึงขั้นนี้จิตของผู้ใช้จะต้องสนิทแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวกันกับหุ่นพยนต์ แม้หลับตาก็ต้องให้เห็นชัดเจนประดุจดังลืมตาฉะนั้น
มิใช่แต่จะทางบู้เท่านั้น อานุภาพทางบุ๋นก็ไม่เป็นรองใคร ผิว่าจะให้เป็นเมตตามหานิยม ให้เขียนชื่อผู้ที่เราปราถนาลงในกระดาษแล้วนำหุ่นพยนต์ วางทับกระดาษาชื่อนั้นไว้ พร้อมอธิษฐานบอกกล่าวความประสงค์แก่หุ่นพยนต์ ให้ทำเสมือนว่าหุ่นพยนต์นั้นมีชีวิตอยู่จริง เช่น ให้เขาฝันเห็นเรา รักเรา มาหาเราแล
หรือผิว่าจะให้เป็นมหานิยมแก่คนทั้งหลายให้เขียนลงกระดาษว่า สัพเพชนา พหุชนา แล้วนำหุ่นพยนต์ วางทับกระดาษาชื่อนั้นไว้
การปรนนิบัติเลี้ยงดูหุ่นพยนต์ หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง สายเขาอ้อ
สุดยอดเครื่องรางมหาเวทย์ด้านกันภัยอันตรายและคุ้มครองบ้านเรือน หุ่นพยนต์ พ่อแก่ ร่ายมนต์ รุ่น มหาเวทย์กันภัย หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง ปี 2554
หลวงพ่อคล้อย กล่าวว่า หุ่นพยนต์ ของท่านไม่ต้องถวายของกินอะไร ท่านเสกให้อิ่มทิพย์ ต้องการให้หุ่นพยนต์ช่วยเหลืออย่างไรให้อธิฐานจิตแล้วบอกพ่อแก่ได้เลย
หลวงพ่อคล้อย อโนโม
วัดภูเขาทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
ท่านเป็นศิษย์สายเขาอ้อสายตรงของแท้ โดยท่านเป็นหลานของ ”พระอาจารย์เอียดวัดดอนศาลา“ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาสายเขาอ้ออย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้ของศาสตร์วิชา “ หลวงพ่อคล้อย “ เกิดเมื่อวันที่ 9 ก.พ 2472 นามเดิมว่า นายคล้อย ทองโอ่ โยมบิดา ชื่อ นายแสงโยมมารดา ชื่อ นางเอียด เกิดที่บ้านมะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 1 มี.ค 2493 ที่ วัดควนปันตาราม โดยมี พระครูรัตนากิรัตเป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาเจิม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูกาชาต (บุญทองเขมทัตโต) วัดดอนศาลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พ่อท่านคล้อยเป็นหลานของพ่อท่านเอียดจึงได้รับการถ่ายทอดตำราวิทยาคมสายเขาอ้อของพ่อท่านทองเฒ่า,พ่อท่านเอียด,พ่อท่านปาน,อย่างเต็มที่ผนวกกับความ ตั้งใจศึกษาสรรพศาสตร์อย่างเต็มที จึงทำให้พ่อท่านคล้อยเป็นผู้คงแก่เรียน และเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์รูปหนึ่ง ในบรรดาศาสตร์วิชาที่พ่อท่านคล้อยมีความเชี่ยวชาญมากเป็นพิเศษแก่ได้ศาสตร์ วิชาพิธีกรรมการผูกหุ่นพยนต์ซึ่งการผูกหุ่นพยนต์นั้น มีหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป การสร้างหุ่นพยนต์ตาปะขาวจัดพิธีกรรมตามตำราเขาอ้อทุกประการโดยเริ่มแรก กำหนดเรียกรูปเรียกนามจากธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดินน้ำ ลม ไฟ จนให้เกิดอาการ 32 จนสามารถรับรู้รับเห็นเคลื่อนไหวได้เหมือนสิ่งมีชีวิต หรือผูกจิตซ่อนเร้นอยู่ในวัตถุธาตุอาถรรพณ์นั้นดวงจิตจะคอยแอบแฝงแสดงฤทธิ์ ปกป้อง คุ้มครองผู้ที่เป็นเจ้าของหุ่นพยนต์เมื่อมีผู้คนคิดปองร้ายหรือมีเจตนาที่ ไม่ดี ถ้าเป็นสถานที่ต่างๆ หุ่นพยนต์จะแสดงฤทธิ์ดูแลรักษาเฝ้าทรัพย์สินในพื้นที่นั้นๆ การผูกหุ่นพยนต์นั้นการสร้างในแต่ละครั้ง พระอาจารย์ผู้ปลุกเสกนั้นจะต้องใช้สมาธิจิตขั้นสูงกว่าการปลุกเสกวัตถุมงคล ในรูปแบบอื่นๆ มากนักและชนวนมวลสารในการจัดสร้างก็ต้องเป็นวัตถุอันเป็นมงคล และศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเองด้วยการทำให้ชนวนมวลสารมีความศักดิ์สิทธิ์เพิ่ม ขึ้น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเพิ่มอิทธิปาฎิหาริย์แก่วัตถุมงคล โดยการลงอักขระมหายันต์ต่างๆ ลงในชนวนมวลสารแล้วเสกกำกับด้วยมนตราอาคมอีกครั้ง
วิชาการสร้างและเสกหุ่นพยนต์มีมาแต่ครั้งโบราณ พระเกจิอาจารย์แต่ละยุค จะได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากครูบาอาจารย์แต่ละสำนักแตกต่างกันออกไป หุ่นพยนต์ที่ได้รับการเสกจากพระอาจารย์ที่มีบารมีธรรมสูง จะมีดวงจิตสถิตแอบแฝง คอยแสดงฤทธิ์คุ้มครอง ปกป้อง กันภัย แก่ผู้ที่เป็นเจ้าของ เมื่อมีคนคอยปองร้ายหรือมีเจตนาที่ไม่ดีไม่ซื่อ หรือไม่ก็คอยเป็นยามเฝ้ารถเฝ้าบ้านให้เวลาที่เจ้าของบ้านเผลอไผลหลับใหล หรือไม่อยู่บ้าน ไม่ทันระวัง
ก่อนพระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองแผ่มาถึงแผ่นดินสุวรรณภูมิ มีประวัติตั้งแต่ฤาษีผู้ทรงพรต, พราหมคณาจารย์ นุ่งขาวห่มขาวบำเพ็ญศีล และฆราวาสผู้เรืองเวทย์หรือนักสิทธิ์วิทยา จนมาถึงพระณาจารย์ ผู้บำเพ็ญรักษาศีลอยู่ในข้อวัตร วินัยของบวรพระพุทธศาสนาสืบต่อมาตราบเท่าทุกวันนี้ ล้วนเชียวชาญในตำราไสยเวทย์ ว่าด้วยการผูกหุ่นพยนต์ ทำให้เห็นในรูปร่างและลักษณะต่างๆ
สำนักตักสิลาเขาอ้อ เป็นสำนักหนึ่งที่มีความเชียวชาญในวิชาผูกหุ่นพยนต์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หุ่นพยนต์ที่พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้สืบทอดตำราจากพระอาจารย์สายเขาอ้อ มาตั้งแต่พระอาจารย์ทองเฒ่า พระอาจารย์เอียด พระอาจารย์ปาน จนมาถึงสมัยท่านอาจารย์คล้อย ครูอาจารย์ท่านได้แต่ใช้ในกรณีใดกรณีหนึ่งเท่านั้นยังมิได้เคยจัดสร้างเป็นลักษณะวัตถุอาถรรพ์ขึ้นเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้เห็นควรที่จะนำวิชาที่ท่านเชียวชาญมาใช้ในเวลาอันสมควรนี้
หุ่นพยนต์ที่พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้ปลุกเสกเดินกระแสจิต
ในทางด้านอิทธิฤทธิ์ เกี่ยวกับปกป้องคุ้มครองภัยทำให้ผู้ที่ประสงค์คิดร้าย เห็นไปในรูปแบบลักษณะต่างๆ กัน เช่นเห็นว่ามากันหลายคนบ้าง ตามแต่กระแสจิตผู้คิดร้ายจะปรุงแต่งขึ้นมา
ในทางด้านบุญฤทธิ์ เกี่ยวกับด้านเมตตา, ค้าขาย เฝ้าดูแลรักษาผลประโยชน์ของผู้ที่ครอบครอง ตามจิตเจตนาในทางกุศล
ปลุกเสกแช่ในน้ำว่าน มีใบไม้ไม่รู้นอน 7 อย่าง แช่ปนอยู่ในน้ำว่าน คือ ใบตาล,ใบลาน, ใบขนุน, ใบคูณ, ใบพยุง, ใบรัก, ใบจันทร์
อาจารย์คล้อย อโนโม สร้างขึ้นมานั้นอยู่ในลักษณะเป็นรูปมนุษย์สูงอายุ มีตะบะ เดชะ อำนาจ มีความเมตตา ดูแลเฝ้ารักษาสถานที่ ผู้ที่มีเจตนาไม่ดีเท่านั้นจึงจะได้พบเห็นเป็นภูติผีปีศาจจากภายนอก ขับไล่ผู้ที่มีเจตตนาไม่ดีมิให้เข้าใกล้ตัวผู้ครอบครอง
คาถาบูชาหุ่นพยนต์
พ่อท่่านคล้อย อโมโน วัดภูเขาทอง พัทลุง
โอม ปลุก มหาปลุก กูจะปลุก ปู่พยนต์ด้วย เจ ติ อา กัง นามะ พยนต์ นิ โส สะ อะ นามมะเต
คาถาอาราธนาก่อนใช้ หุ่นพยนต์
พุทธัง มหาอาราธนานัง อธิษฐานนิ พุทธัง มหาปะสิทธิเม ธัมมัง มหาอาราธนานัง อธิษฐานนิ พุทธัง มหาปะสิทธิเม สังฆัง มหาอาราธนานัง อธิษฐานนิ พุทธัง มหาประสิทธิเม