เลือกห้อยพระตามลักษณะนิสัย ประจำวันเกิด
ตามความเชื่อที่มีมาแต่โบราณว่า การแขวนพระห้อยพระประจำวันเกิดนั้น จะเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและส่งเสริมชะตาราศี
ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์
จะเป็นคนมุ่งมั่นในการงาน คล่องแคล่ว่องไว แต่ก็มักฉุนเฉียวง่าย การตัดสินใจจึงขาดความยั้งคิด เป็นเหตุให้อาจมีศัตรูหรือคู่อริโดยไม่รู้ตัว โบราณจึงใช้ พระปางถวายเนตร เป็นพระประจำวันเกิด เนื่องจากเป็นปางยืนพิจารณาธรรมในท่าสำรวม อันหมายถึง การกระทำต่างๆ อย่างมีสติ
พระเครืองที่ผู้เกิดวันอาทิตย์ควรบูชา พระปางถวายเนตร พระปางมารวิชัย ช่วยหนุนธาตุประจำตัว
พระปางถวายเนตร มีพระอิริยาบถประทับยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสานกันอยู่ที่หน้าพระเพลา ลืมพระเนตร เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณและประทับเสวยธรรมปิติ ณ ใต้ต้นมหาโพธิ์ ครบ 1 สัปดาห์ ครั้นถึงสัปดาห์ที่ 2 พระพุทธเจ้าประทับยืนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของต้นมหาโพธิ์ ทรงลืมพระเนตรโดยไม่กระพริบพระเนตร บูชามหาโพธิ์ที่พระพุทธองค์ประทับตรัสรู้ตลอดสัปดาห์ที่ 2 สถานที่ดังกล่าวเรียกว่า อนิมิสเจดีย์ พระปางถวายเนตร เป็นพระประจำวันอาทิตย์
ผู้ที่เกิดวันจันทร์
เป็นคนมีเสน่ห์ เป็นที่รักของคนทั้งหลาย โกรธง่ายหายเร็ว ทำการสิ่งใดมักละเอียดรอบคอบเหมาะกับงานด้านศิลปะ แต่ก็ใจน้อยและอ่อนไหวง่าย ทำให้ขาดอำนาจและวาสนา โบราณจึงให้ พระปางห้ามสมุทร เป็นพระประจำวันเกิด เพราะดวงจันทร์ดาวความคิดสับสน ปางนี้จึงเหมือนเตือนเจ้าชะตา
พระเครื่องที่ควรบูชา พระประจำวัน พระปางห้ามสมุทร พระยอดขุนพล เพื่อเสริมอำนาจบารมี
พระปางห้ามสมุทร มีพระอิริยาบถประทับยืน พระกรทั้งสองยกขึ้นเสมอพระอุระ ตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออกไปข้างหน้าแสดงมุทราห้าม
พระปางห้ามสมุทร ปรากฏกล่าวถึงเหตุการณ์ในพุทธประวัติต่างกันเป็น 2 เหตุการณ์
เหตุการณ์หนึ่ง กล่าวถึงเมื่อพระพุทธองค์ประทับ ณ เมืองพาราณสี เสด็จไปยังสำนักของชฏิล 3 พี่น้องและหมู่บริวาร ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา แขวงอุรุเวลา ชฎิลทั้ง 3 นี้ พี่ชายใหญ่ คือ อุรุเวลกัสสปะ น้องชายกลาง คือ นทีกัสสปะ และน้องชายเล็ก คือ คยากัสสปะ พระพุทธองค์ทรงแสดงปาฏิหาริย์ เพื่อทำลายมิจฉาทิฏฐิของชฏิลทั้งหลายโดยทรงห้ามฝนที่ตกหนักในบริเวณนั้น มิให้เปียกท่วมปริมณฑลที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ ชฏิล ทั้งสามและบริวารจึงยอมอ่อนน้อมขอบรรพชาจำนวน 1000 คน และพระพุทธองค์ทรงแสดงอาทิตดปริยายสูตรหมู่ชฎิลและบริวารได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ในครั้งนั้น
ส่วนอีกเหตุการณ์ กล่าวถึงขณะพระพุทธองค์ประทับ ณ นิโครธาราม ริมฝั่งแม่น้ำโรหิณีใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ ทรงห้ามหมู่พระประยูรญาติวิวาทกันด้วยเรื่องแย่งน้ำ
พระปางห้ามสมุทรนี้ เป็น พระประจำวันจันทร์
ผู้ที่เกิดวันอังคาร
เป็นคนมุทะลุดุดัน เจ้าอารมณ์ โมโหร้าย แต่ก็เป็นคนรักจริง เอาจริงเอาจังต่อทุกสิ่งทุกอย่าง โบราณจารย์จึงให้ พระปางไสยาสน์ เป็นพระปางประจำวันเกิด ให้ความหมายถึง พระนอนเย็นอนุสติ เตือนใจให้รู้จักความเยือกเย็น
พระเครืองที่บูชาถูกโฉลก สำหรับผู้เกิดวันอังคาร พระปางไสยาสน์ เพื่อส่งเสริมการมีสติ โบราณว่า ถ้ามีสติก็มีสตางค์
พระปางไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปนอนตะแคงขวา หลับพระเนตร พระเศียรหนุนบนเขนย พระหัตถ์ขวารองรับพระเศียร พระกรซ้ายทอดยาวแนบองค์พระบาทเหยียดปลายเสมอกันทั้งสองข้าง
ผู้ที่เกิดวันพุธกลางวัน
เป็นคนเดินทางเก่ง ฝีปากกล้า ค้าขายคล่อง มักได้ลาภจากการพูดจา แต่ก็ทำคุณคนไม่ขึ้น และปิดทองหลังพระ โบราณจารย์ท่านจึงใช้ พระปางอุ้มบาตร เป็นพระประจำวันเกิด อันหมายถึง การบิณฑบาตรโปรดสัตว์ โดยมิได้เห็นแก่ชนชั้นวรรณะ วันพุธกลางวัน เป็นฤกษ์แห่งการทำมาหากิน พระเครื่องที่เหมาะสมควรเป็น พระปางลีลา อันหมายถึงความก้าวหน้า
พระเครื่องที่เหมาะสม ผู้เกิดวันพุธกลางวัน ส่งเสริมชิวิตการงานการเงินให้เจริญก้าวหน้า คือ พระปางลีลา
ผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน
เป็นคนลึกลับ มึความสามารถเฉพาะตัว และมีลางสังหรณ์ แต่ไม่ค่อยมีคนเข้าใจ เวลามีปัญหามักหาที่ปรึกษายาก โบราณจารย์ จึงใช้ พระปางป่าเลไลย์ เป็นพระประจำวัน เป็นอนุสติ เพราะเป็นปางที่พระพุทธเจ้าทรงเบื่อหน่ายพระสาวกที่ขัดแย้งกัน จึงทรงเสด็จไปเพียงลำพัง ณ ป่าเลไลย์ มีช้างป่ามาถวายกล้วยและลิงมาถวายน้ำผึ้ง นอกจากนี้ควรมี เครื่องรางของขลัง พกพาไว้เสริมดวงและป้องกันอาถรรพ์ต่างๆ
พระเครื่องที่เหมาะสม เสริมดวง นำโชคลาภ พระปางป่าเลไลย์ เครื่องรางของขลัง
พระปางป่าเลไลยก์ มีพระอิริยาบถประทับนั่งบนโขดหิน ห้อยพระบาททั้งสองบนฐานบัว พระหัตถ์ขวาวางหงายบนพระชานุแสดงมุทราทรงรับของถวาย พระหัตถ์ซ้ายคว่ำวางบนพระชานุ มีช้างป่าลิไลยก์หมอบที่พื้นข้างขวา ชูงวงยื่นคนโทน้ำ และลิงถือรวงผึ้งอยู่ข้างซ้าย
ในพรรษาที่ 10 เมื่อพระพุทธองค์ประทับ ณ โฆสิตาราม เมืองโกสัมพี ในครั้งนั้น พระสงฆ์สาวกไม่สามัคคีปรองดองกัน ประพฤตินอกพระโอวาท ด้วยอำนาจมานะทิฏฐิ พระพุทธองค์จึงเสด็จจาริกแต่พระองค์เดียวไปยังป่าปาลิไลยกะ ทรงอาศัยพระยาช้างปาลิไลยก์ ทำวัตรปฎิบัติถวายพระพุทธองค์ด้วยความเคารพ ส่วนวานรเมื่อเห็นจึงบังเกิดกุศลจิต ครั้นพบรวงผึ้งจึงนำมาถวายพระพุทธองค์
พระพุทธรูปปางนี้ เป็นพระพุทธรูปประจำวันพุธ และเป็นพระบูชาของผู้ที่พระราหูเสวยอายุ
ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี
มีปัญญาเฉลียวฉลาด เอื้อเฟื้อแผื่อแผ่ มีความยุติธรรม เที่ยงตรง ชอบเรียนรู้ แต่ไม่ยอมคน จนเหมือนคนมีสังคมแคบ โบราณจึงใช้ พระปางสมาธิ เป็นพระประจำวันเกิด เพราะการเจริญสมาธิจะถึงซึ่งปัญญา
พระเครื่องที่เหมาะสม แขวนแล้วถูกโฉลก พระประจำวัน พระปางสมาธิ และ พระปางเปิดโลก ซึ่งถือว่าเป็นพระแห่งปัญญา เพื่อช่วยเสริมวาสนาบารมี
พระปางสมาธิ มีลักษณะพระอิริยบถประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ทั้งสองวางหงายช้อนกันบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางบนพระหัตถ์ซ้าย ปางสมาธิ ในบางครั้งมีกล่าวถึงเป็นปางตรัสรู้ ซึ่งอ้างอิงถึงเหตุการณ์ในพุทธประวัติต่างกัน กล่าวคือ ปางสมาธิ เป็นเหตุการณ์เมื่อพระโพธิสัตว์ประทับบำเพ็ญสมาธิบนอาสนะหญ้าคาใต้ต้นโพธิ์ ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ส่วน ปางตรัสรู้ กล่าวถึงเหตุการณ์ขณะทรงบำเพ็ญสมาธิใต้ต้นโพธิ์และพระยาวัสวดีมารและพลพรรคมาทำลายขัดขวางการบำเพ็ญสมาธิ แต่ต้องพ่ายต่อกระแสน้ำจากมวยผมของพระแม่ธรณี หลังจากมารพ่ายและปลาสนาการไปจนหมดสิ้นแล้ว พระโพธิสัตว์ทรงเจริญสมาธิในปฐมยาม มัชฌิมยาม และปัจฉิมยาม โดยทรงบรรลุญาณ ได้แก่ ความระลึกชาติของตนและคนอื่น ได้ความเรื่องเกิด เรื่องตายของตนและของคนอื่น การรู้จักทำอาสวกิเลสให้สิ้นไปด้วยรู้สัจธรรมทั้ง 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค อันหมายถึงทรงบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ใต้ตันอสัตถพฤกษ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ เมื่อก่อนพุทธศักราช 45 ปี พระพุทธรูปปางนี้นิยมสร้างเป็นพระประธานในพุทธสถาน นอกจากนี้ยังเป็นพระพุทธรูปประจำวันพฤหัสบดี
พระปางเปิดโลก มีการทำเป็นประติมากรรมรูปเคารพ 2 ลักษณะ
ลักษณะที่ 1 พระอิริยาบถประทับยืน พระกรทั้งสองทอดยาวกางออกไปข้างพระวรกาย นิ้วพระหัตถ์กางเล็กน้อยแสดงมุทราทรงเปิด
ลักษณะที่ 2 พระอิริยาบถประทับยืน พระกรทั้งสองทอดยาวข้างพระวรกาย หงายฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองออกข้างหน้าแสดงพระอิริยาบถอันหมายถึงเปิดโลก
เมื่อพระพุทธองค์จะเสด็จจากดาวดึงส์ หลังจากเสด็จโปรดพระพุทธมารดาแล้ว ทรงแสดงปาฏิหาริย์เปิดโลกทำให้ชาวโลกมนุษย์ สวรรค์ และนรก ต่างเห็นกันโดยตลอด
ผู้ที่เกิดวันศุกร์
เป็นคนราคะจริตสูง หลงไหลในสิ่งสวยๆ งามๆ แต่ก็เป็นคนทำงานละเอียดปราณีต โบราณจารย์จึงใช้ พระปางรำพึง ซึ่งเป็นปางที่พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาธรรมสังเวช เพื่อเป็นอนุสติเตือนใจ เป็นพระประจำวันเกิด
พระเครื่องที่เหมาะสม ควรเป็น พระประจำวัน พระปางรำพึง พระปิดตา ซึงนอกจากเตือนสติแล้ว ยังช่วยส่งเสริมดวงชะตา โชคลาภวาสนาด้วย
พระปางรำพึง พระอิริยาบถประทับยืน พระหัตถ์ทั้งสองยกขึ้นประทับที่พระอุระ พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย แสดงพระอิริยาบถรำพึง
ครั้นตปุสสะและภัสลิกะทูลลากลับไปแด้ว พระพุทธองค์ทรงรำพึงปริวิตกว่า พระธรรมที่ทรงตรัสรู้นั้นลึกซึ้งจนยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ จึงทรงท้อพระทัยถึงกับจะทรงไม่แสดงธรรมแก่มหาชน ท้าวสหัมบดีพรหมและเทพยดาจึงไปเฝ้าพระพุทธองค์ ณ ใต้ต้น อัชปาสนิโครธ (ต้นไทร) กราบทูลอาราธนาให้ทรงแสดงธรรมโปรดชาวโลกจึงทรงหวนพิจารณาว่าบุคคลย่อมมีปัญญาต่างกัน อาจแบ่ง
ออกเป็น 4 จำพวกเสมือนบัว 4 เหล่า ได้แก่
บุคคลที่มีอุปนิสัย วาสนาและบารมีแก่กล้า ได้สดับคำสั่งสอนแห่งพระพุทธองค์โดยสังเขป ย่อมรู้เหตุผลและหลุดพ้นทุกข์ได้โดยพลันพวกหนึ่ง
บุคคลที่มีอุปนิสัย ได้สดับคำสั่งสอนโดยสังเขปไม่สามารถตรัสรู้ได้ ต่อเมื่อจำแนกอรรถาธิบายโดยพิสดาร จึงรู้เหตุผลและหลุดพ้นทุกข์ได้จำพวกหนึ่ง
บุคคลที่ได้สดับคำสั่งสอนทั้งโดยสังเขปและพิสดารแล้วยังไม่สามารถตรัสรู้ได้ต้องฝึกฝนพากเพียรศึกษาต่อไป จึงรู้เหตุผลและหลุดพ้นได้จำพวกหนึ่ง
และบุคคลที่มีอุปนิสัยและบารมียังไม่บริบูรณ์ แม้จะได้สดับพระธรรมคำสังสอนทั้งโดยสังเขปและพิสดาร แม้จะฝึกฝนและพากเพียรเล่าเรียนก็ไม่สามารถจะตรัสรู้เหตุผล และหลุดพันทุกข์ได้
จำพวกหนึ่ง ทรงเห็นว่าบุคคล 3 จำพวกแรก สามารถจะลุล่วงรู้เหตุผลแห่งความจริง (พระธรรม) ได้ในชาติปัจจุบัน แต่บุคคลจำพวกที่ 4 อาจจตรัสรู้ได้ในชาติอนาคต จึงตกลงพระทัยที่จะแสดงพระธรรมสั่งสอนชาวโลกต่อไป โดยทรงตั้งปณิธานว่า หากหลักสัจธรรมยังไม่แพร่หลายและสาวกยังไม่รู้ทั่วถึงธรวมก็จักไม่นิพพาน
พระพุทธรูปปางรำพึงนี้ เป็นพระพุทธรูปประจำวันศุกร์
ผู้ที่เกิดวันเสาร์
มีนิสัยเป็นคนจริงจัง พูดจริงทำจริง และอยู่ในประเภท อ่อนนอกแข็งใน แต่ก็ดวงแข็ง ผู้ที่คิดทำร้ายมักไม่สำเร็จ โบราณจารย์จังใช้ พระปางนาคปรก เป็นพระประจำวันเกิด อันหมายถึง พญามุจรินทร์นาคราช ที่มาแผ่พังพาฬเพื่อป้องกันภยันตรายแต่องค์พระพุทธเจ้า
พระเครื่องที่เสริมดวง เป็นพระ พระปางนาคปรก พระประจำวัน หรือ ที่ทำจากว่าน พระเนื้อว่าน เพราะมีลักษณะเย็นและเป็นสิ่งบริสุทธิ์จากธรรมชาติ จะเสริมสิริมงคล เสริมดวงชะตา
พระปางนาคปรก โดยทั่วไปพระอริยบทนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์แสดงปางสมาธิ แต่พระปางนาคปรกบางองค์ ประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์แสดงปางมารวิชัย มีพยานาคแผ่พังพานเหนือพระเศรียร ขดนาคทำเป็นบัลลังก์ บางครั้งมีต้นมุจลินทพฤกษ์หรือต้นจิกประกอบอยู่
ในสัปดาห์ที่ 6 หลังจากตรัสรู้ พระพุทธองค์จึงเสด็จไปประทับบำเพ็ญสมาธิ ณ ใต้มุจลินทพฤกษ์หรือต้นจิก ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของต้นมหาโพธิ์ ครานั้นเกิดอากาศวิปริตฝนตกท่วมท้น พระยานาคมุจลินท์อาศัยในสระมุจลินท์จึงขี้นจากสระแผ่พังพานป้องกันพระพุทธเจ้าจากอากาศวิปริตนั้น พระพุทธรูปปางนี้ เป็นพระพุทธรูปประจำวันเสาร์
หน้าที่เข้าชม | 4,053,916 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 3,205,856 ครั้ง |
เปิดร้าน | 28 ต.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |