วันนี้ท่านได้รับสิทธิพิเศษจัดส่ง EMS ฟรี!!!

อมูเลทเซเว่นเลือกสรร ขอท่านรับพรสมปราถนา

ไฮไลท์
พระนาคปรก ปรกใบมะขาม เนื้อนวะโลหะ หลวงพ่อพระใส รุ่นแผ่บารมี (ในรุ่นฟ้าผ่าไม่ตาย) วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย ปี 2558 พร้อมกล่องเดิมจากวัด
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า

พระนาคปรก ปรกมะขาม เนื้อนวะโลหะ หลวงพ่อพระใส รุ่นแผ่บารมี (ในรุ่นฟ้าผ่าไม่ตาย) วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย ปี 2558 พร้อมกล่องเดิมจากวัด




พุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาดจากอันตราย อุบัติเหตุเป็นเลิศ และก็พิสูจน์มาแล้วหลายเหตุการณ์ จนคนจังหวัดหนองคาย และใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือมาเป็นเวลาช้านานแล้ว แม้แต่เครื่องบินเดินอากาศไทยสมัยนั้นตกที่ปทุมธานีเมื่อหลายสิบปีก่อน ก็มีคนรอดมาแล้ว

ประวัติหลวงพ่อพระใส

หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก มีพระรูปลักษณ์งดงามมาก ขนาดหน้าตัก กว้าง 2 คืบ  8 นิ้ว ส่วนสูงจากพระชงฆ์เบื้องล่างถึงยอดพระเกศ  41 คืบ 1 นิ้ว ของช่างไม้ ปัจจุบันได้ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย(พระอารามหลวง) อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย เป็นพระพุทธรูปที่ชาวจังหวัดหนองคายนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากและเป็นที่เคารพสักการะอย่างยิ่ง

ประวัติการสร้างซึ่งเป็นอัศจรรย์ยิ่งนัก

สมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ลงความเห็นไว้ในหนังสือตำนานพุทธเจดีย์สยาม หน้า 102 ว่า พระพุทธรูปล้านช้างที่งามยิ่งกว่าองค์อื่น คือ พระสุก พระเสริม และ พระใส โดยมีพระราชธิดา 3 พระองค์ แห่งกษัตริย์ล้านช้างเป็นเจ้าของศรัทธา
พิธีหล่อ มีคนสูบเตาหลอมทองอยู่ไม่ขาดระยะนับเป็นเวลา 7 วัน จนถึงวันที่ 8 เวลาเพลเหลือแต่หลวงตากับสามเณรน้อยรูปหนึ่งทำการสูบเตาอยู่ ปรากฏมีชีปะขาวคนหนึ่งมาขอสูบเตาช่วยหลวงตาและสามเณรน้อยขึ้นไปฉันเพลและแล้วสิ่งที่เป็นอัศจรรย์ที่ทุกคนเห็นก็คือทุกคนเห็นคนสูบเตามากกว่าผิดปรกติ ท่อเตามีมาก แต่ละคนเป็นชีปะขาวหมดและทองได้ถูกเทลงในเบ้าทั้ง 3 เบ้าเรียบร้อย และไม่ปรากฏชีปะขาวนั้นอีกเลย

การประดิษฐาน

เดิมทีนั้นหลวงพ่อพระใสได้ประดิษฐาน ณ เมืองหลวงของอาณาจักรล้านช้าง พ.ศ. 2321 สมัยกรุงธนบุรีได้อัญเชิญมาไว้ที่เมืองเวียงคำ และถูกเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพนชัย เมืองเวียงจันทร์อีก ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบัญชาให้สมเด็จกรมพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์อัญเชิญพระพุทธรูปทั้งสามองค์จากอาณาจักรล้านช้างสู่สยามประเทศ โดยอัญเชิญมาจากภูเขาควายขึ้นประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ซึ่งผูกติดอย่างมั่นคงล่องมาตามลำน้ำงึม เมื่อล่องมาถึงตรงบ้านเวินแท่นในขณะนั้นเกิดอัศจรรย์ แท่นของพระสุก พระใส เกิดแหกแพจมลงใปในน้ำ โดยเหตุพายุพัดแรงจัดและบริเวณนั้นได้นามว่า เวินแท่น
การล่องแพก็ยังล่องมาตามลำดับจนถึงน้ำโขง(ปากน้ำงึม) เฉียงกับบ้านหนองกุ้ง อำเภอโพนพิศัย จังหวัดหนองคาย ได้เกิดพายุใหญ่เสียงฟ้าคำรามคะนองร้องลั่น ในที่สุดพระสุกได้แหกแพแพจมลงไปในน้ำ ซึ่งอาการวิปริตต่าง ก็ได้หายไปเป็นอัศจรรย์ยิ่ง บริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า เวินสุก และพระสุกก็จมอยู่ในน้ำตรงนั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้
ก็ยังเหลือแต่ พระเสริม และ พระใส ที่ได้นำขึ้นมาถึงเมืองหนองคาย พระเสริมนั้นได้ถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดหอก่อง (ปัจจุบัน คือ วัดประดิษฐ์ธรรมคุณ)

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ ให้ขุนวรธานีและเจ้าเหม็น(ข้าหลวง) อัญเชิญพระเสริมจากวัดโพธิ์ชัยหนองคาย ไปกรุงเทพฯ และอัญเชิญพระใส จากวัดหอก่องขึ้นประดิษฐานบนเกวียนจะอัญเชิญลงไปกรุงเทพด้วย แต่พอถึงวัดโพธิ์ชัย พลวงพ่อพระใสได้แสดงปาฎิหารย์จนเกวียนหัก จึงอัญเชิญลงไปไม่ได้ ได้แต่พระเสริมลงไปกรุงเทพฯ ประดิษฐานไว้ ณ วัดปทุมวนาราม ส่วนหลวงพ่อพระใสได้อัญเชิญประดิษฐไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองคาย จนถึงปัจจุบัน

เมื่อองค์หลวงพ่อพระใสมาประดิษฐานอยู่ ณ วัดโพธิ์ชัย แล้วอาศัยที่ได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์และอัศจรรย์หลายประการ จึงเป็นที่ศรัทธาเคารพนับถือ และสักการบูชาของประชาชนที่มีแด่หลวงพ่อพระใส ที่ให้ความสำเร็จความร่มเย็นเป็นเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทร ที่ให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้ยึดเหนี่ยวจิตใจและอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ความอัศจรรย์ขององค์หลวงพ่อพระใส จนได้สมญานามว่า หลวงพ่อเกวียนหัก แม้ตราบเท่าทุกวันนี้พระบารมีที่คุ้มครองและพระเมตตาธรรมขององค์หลวงพ่อพระใส ยังคงแผ่ปกป้องคุ้มครองขจัดปัดเป่าภัยพิบัติให้ แก่ผู้พึ่งบารมีอย่างไม่เสื่อมคลายเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งกว่าอัศจรรย์ อีกทั้งทำให้วัดโพธิ์ชัยเป็นสถานที่่ท่องเที่ยวให้พทุธศาสนิกชน จากทั่วประเทศและพี่น้องต่างชาติได้มาสักการบูชาหลวงพ่อพระใส อย่างไม่ขาดสาย

ภาคปาฎิหารย์ของหลวงพ่อพระใส

หลวงพ่อพระใสเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เดิมมาปรากฎตามประวัติว่า เมื่อรัชสมัยพระเจ้าสุริยวงศ์ จะเสด็จเสวยราชย์ขึ้นครองนครเวียงจันทร์ พระองค์ได้ทรงตั้งจิตอธิษฐาน ต่อหน้าพระพักตร์ของหลวงพ่อพระใสว่า ถ้าการปกครองไพรฟ้าของข้าพเจ้าจะเป็นไปด้วยความสันติสูขปราศจากศัตรูหมู่ไพรีที่จะมาเบียดเบียดแล้ว ขอให้หลวงพ่อพระใสแสดงเหตุอัศจารรย์ให้ประจักษ์ ครึ้งถึงเสวยราชย์เดือนอ้าย ได้เกิดอัศจรรย์ให้เป็นประจักษ์ตามคำอธิษฐาน คือ ฟ้า คึกคะนองร้องลั่น หวั่นไหวแลบแปลบปลาบสาบฟ้าฟาดสนั่นสั่นสะเทือน แต่จะได้เป็นอันตรายแก่คนและสัตว์ก็หามิได้ นิมิตอัศจรรย์นั้นปรากฏว่า พระองค์ได้เสวยราชย์ทรงปกครองไพร่ฟ้าประชาชนได้อยู่เย็นเป็นสุขโดยทั่วกัน ตลอดรัชสมัยของพระองค์

ความอัศจรรย์หรืออภินิหารครั้งที่สอง คราวที่ขุนวรธานีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสออกจากวัดหอก่อง เพื่อที่จะนำไปกรุงเทพ ปรากฎว่า พออัญเชิญมาถึงวัดโพธิ์ชัย ปรารภจะนำไปพร้อมกับพระเสริม คนที่สมมุติให้เป็นพราหมณ์ผู้อัญเชิญหลวงพ่อพระใสไปนั้น ไม่สามารถลากเกวียน ซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อพระใสให้เคลื่อนต่อไปได้แม้จะใช้เครื่องฉุดก็สุดความสามารถเช่นเดียวกันได้ทำการอ้อนวอนด้วยประการต่างๆ ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุด เกวียนก็ได้หักลง คราวนี้ได้หาเกวียนใหม่มาเป็นที่ประดิษฐาน แต่ก็อัศจรรย์อีกครั้ง เพราะไม่สามารถจะนำให้เคลื่อนที่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงปรึกษาตกลงกันว่า จะอัญเชิญไปไว้ที่วัดโพธิ์ชัย แล้วก็ทำการอ้อนวอน เป็นผลดังใจนึก พอเข้ามาหามเพียงไม่กี่คนหลวงพ่อพระใสก็ถูกยกขึ้น ประดิษฐานไว้ในอุโบสถวัดโพธิ์ชัย ให้เราได้กราบไหว้เคารพสักการบูชาและเป็นเกียรติอันสูงส่งแก่ชาวจังวัดหนองคายมาตลอดจนบัดนี้

ในคราวต่อมา องค์หลวงพ่อพระใสก็ได้แสดงความอัศจรรย์อีกหลายครั้ง เช่น เมื่อคราวขุนเชาว์ เป็นผู้เชิดชูหลวงพ่ออยู่นั้นขณะที่ทางวัดโพธิ์ชัยมีงานสมโภชหลวงพ่อพระใส ได้มีท่านผู้หนึ่งซึ่งเดินทางมาจากต่างถิ่น ไม่สู้จะเชื่อความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระใสมากนัก เพือเป็นการทดลองจึงได้พูดว่าถ้าหากหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ขอให้ดลบันดาลให้ฟ้าผ่าทันที ทันใดนั้้นฟ้าก็ผ่าลงมาจริงๆ

หลวงพ่อพระใส หรือ หลวงพ่อเกียนหัก เป็นพระพุทธปฏิมาที่มีประวัติความเป็นมานับตั้งแต่เริ่มเททองหล่อ โดยพระราชธิดากษัตริย์ล้านช้างเป็นเจ้าศรัทธา มาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้มีพิสดารมากมายพอสมควร จึงเป็นพระพุทธรูปที่มีชาวพุทธศาสนิกชน ตลอดสองฟากฝั่งแม่น้ำโขงให้ความเคารพบูชาศรัทธาเลื่อมใสกันอย่างมากและหลวงพ่อพระใสเองก็ได้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ท่านอยู่เสมอมา แม้ตราบเท่าทุกวันนี้พระบารมีของหลวงพ่อพระใสยังคงปกป้องแผ่คุ้มครองขจัดปัดเป่าภับพิบัติให้แก่ผู้หวังพึ่งอย่างไม่เสื่อมคลาย ดังจะเห็นได้อย่างแจ่มชัดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อคราวที่เครื่องบินของบริษัทเดินอากาศไทย ประสบอุบัติเหตุบริเวณทุ่งนาคลองรังสิตเมื่อปลายเดือนเมษายน 2523 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเรายังคงจำกันได้ว่ามีผู้โดยสารสองท่าน ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยสามารถลุกขึ้นเดินกลับบ้านได้โดยทันทีไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลแต่อย่างใดและหนึ่งในสองท่านคือ คุณศักดิ์ดา อัครเมธาทิพย์ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดหนองคาย ก่อนออกเดินทางได้ไปนมัสการหลวงพ่อพระใสพร้อมกับบูชาหลวงพ่อพระใสจำลองขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว นำขึ้นเครื่องบินเดินทางไปด้วย เมื่อเกิดเหตุทั้งคนและองค์พระกลับไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆ ที่องค์พระก็เป็นวัตถุทองเหลืองชนิดหนึ่ง โดยไม่มีส่วนใดแตกหักบุบสลายเลย ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนั้นนับเป็นปาฎิหารย์ที่รู้เห็นกันอย่างกว้างขวาง จนมีสื่อมวลชนหลายแขนงเสนอภาพ และข่าวอย่างละเอียดพร้อมกับตั้งสมญานามหลวงพ่อพระใส จึงเป็นที่มาของคำว่า พระพุทธรูปปาฎิหารย์ บ้าง 
หลวงพ่อพระใสเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เดิมมาปรากฎตามประวัติว่า เมื่อรัชสมัยพระเจ้าสุริยวงศ์ จะเสด็จเสวยราชย์ขึ้นครองนครเวียงจันทร์ พระองค์ได้ทรงตั้งจิตรอธิฐาน เฉพาะพระพักตร์ของหลวงพ่อพระใสว่า ถ้าารปกครองไพรฟ้าของข้าพเจ้าจะเป็นไปด้วยความสันติสูขปราศจากศัตรูหมู่ไพรีที่จะมาเบียดเบียดแล้ว ขอให้หลวงพ่อพระใสแสดงเหตุอัศจารรย์ให้ประจักษ์ครึ้งถึงเสวยราชย์เดือนอ้าย ได้เกิดอัศจรรย์ให้เป็นประจักษ์ตามคำอธศฐาน คือ ฟ้า คึกคะนองร้องลั่น หวั่นไหวแลบแปลบปลาบสาบฟ้าฟาดสนั่นสั่นสะเทือน แต่จะได้เป็นอันตรายแก่คน และสัตว์ก็หามิได้ นิมิตอัศจรรย์นั้นปรากฏว่า พระองค์ได้เสวยราชย์ทรงปกครองไพร่ฟ้าประชาชนได้อยู่เย็นเป็นสุขโดยทั่วกัน ตลอดรัชสมัยของพระองค์
ความอัศจรรย์หรืออภินิหารครั้งที่สอง คราวที่ขุนวรธานีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสออกจากวัดหดก่อง เพื่อที่จำนำไปกรุงเทพ ปรากฎว่า พออัญเชิญมาถึงวัดโพธิ์ชัย ปรารภจะนำไปพร้อมกับพระเสริม คนที่สมมุติให้เป็นพราหมณ์ผู้อัญเชิญหลวงพ่อพระใสไปนั้น ไม่สามารถลากเกียน ซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อพระใสให้เคลื่อนต่อไปได้แม้จะใช้เครื่องฉุดก็สุดความสามารถเช่นเดียวกันได้ทำการอ้อนวอนด้วยประการต่างๆ ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุด เกวียนก็ได้หักลง คราวนี้ได้หาเกวียนใหม่มาเป็นที่ประดิษฐาน แต่ก็อัศจรรย์อีกครั้ง เพราะไม่สามารถจะนำให้เคลื่อนที่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงปรึกษาตกลงกันว่า จะอัญเชิญไปไว้ที่วัดโพธิ์ชัย แล้วก็ทำการอ้อนวอน เป็นผลดังใจนึก พอเข้ามาหามเพียงไม่กี่คนหลวงพ่อพระใสก็ถูกยกขึ้น ประดิษฐานไว้ในอุโบสถวัดโพธิ์ชัย ให้คณะเราได้กราบไหว้เคารพสัการบูชาและเป็นเกียรติอันสูงส่งแก่ชาวจังวัดหนองคายมาตลอดจนบัดนี้
ในคราวต่อมา องค์หลวงพ่อพระก็ได้แสดงความอัศจรรย์อีกหลายครั้ง เช่น เมื่อคราวขุนเชาว์ เป็นผู้เชิดชูหลวงพ่ออยู่นั้นขณะที่ทางวัดโพธิ์ชัยมีงานสมโภชหลวงพ่อพระใส ได้มีท่านผู้หนึ่งซึ่งเดินทางมาจากต่างถิ่น ไม่สู้เชื่อความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระใสมากนัก เพือเป็นการทดลองจึงได้พูดว่าถ้าหากหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ของให้ดลบันดาลให้ฝ่าผ่าทันที ทันใดนั้้นฟ้าก็ผ่าลงมาจริงๆฃ
หลวงพ่อพระใส หรือ หลวงพ่อเกียนหัก เป็นพระพุทธปฏิมาที่มีประวัติความเป็นมานับตั้งแต่เริ่มเททองหล่อ โดยพระราชธิดากษัตริย์ล้านช้างเป็นเจ้าศรัทธา มาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้มีพิสดารมากมายพอสมควร จึงเป็นพระพุทธรูปที่มีชาวพุทธศาสนิกชน ตลอดสองฟากฝั่งแม่น้ำโขงให้ความเคารพบูชาศรัทธาเลื่อมใสกันอย่างมากและหลวงพ่อพระใสเองก็ได้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ท่านอยู่เสมอมา แม้ตราบเท่าทุกวันนี้พระบารมีของลวงพ่อพระใสยังคงปกป้องแผ่คุ้มครองขจัดปัดเป่าภับพิบัติให้แก่ผู้หวังพึ่งอย่างไม่เสื่อมคลาย ดังจะเห็นได้อย่างแจ่มชัดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อคราวที่เครื่องบินของบริษัทเดินอากาศไทย ประสบอุบัติเหตุบริเวณทุ่งนาคลองรังสิตเมื่อปลายเดือนเมษายน 2523 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเรายังคงจำกันได้ว่ามีผู้โดยสารสองท่าน ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยสามารถลุกขึ้นเดินกลับบ้านได้โดยทันทีไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลแต่อย่างใดและหนึ่งในสองท่านคือ คุณศักดิ์ดา อัครเมธาทิพย์ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดหนองคายก่อนออกเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อพระใสพร้อมกับบูชาหลวงพ่อพระใสจำลองขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว นำขึ้นเครื่องบินเดินทางไปด้วย เมื่อเกิดเหตุทั้งคนและองค์พระกลับไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆ ที่องค์พระก็เป็นวัตถุทองเหลืองชนิดหนึ่ง โดยไม่มีส่วนใดแตกหักบุบสลายเลย ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนั้นนับเป็นปาฎิารย์ที่รุ้เห็นกันอย่างกว้างขวาง จนมีสื่อมวลชนหลายแขนงเสนอภาพ และข่าวอย่างละเอียดพร้อมกับตั้งสมญานามหลวงพ่อพระใส จึงเป็นที่มาของคำว่า พระพุทธรูปปาฎิหารย์ บ้าง ยิ่งกว่าอัศจรรย์บ้าง
 

พระคาถาหลวงพ่อพระใส

ว่า นะโม สามจบ
อะระหัง พุทโธ โพธิชะโย เสยะคุโณ
โพธิสัตโต มะหาลาโภ ปิยัง มะมะ
ภะวันตุ โน โหตุ สัพพะทา
เงื่อนไขอื่นๆ

 

วิธีการสั่งเช่าบูชาและชำระเงิน

ช่องทางการเช่าบูชา ขั้นตอนการเช่าบูชา การชำระเงิน
1. สั่งเช่าบูชาผ่านเว็บไซต์ระบบตะกร้าของร้าน

ตัวอย่างการเช่าบูชาผ่านหน้าเว็บด้วย มือถือ

สามารถทำตามวิธีการสั่งเช่าบูชาได้ทางเว็บไซต์

2. สั่งเช่าบูชาผ่านเฟสบุ๊ก พนม พระเครื่อง คลิก พนม พระเครื่อง เพื่อสนทนาเฟสบุ๊ก ส่งรูปพระเครื่องวัตถุมงคล พร้อมรหัสสินค้า ในกล่องข้อความ

โอนเงินธนาคารที่สะดวก

ส่งสลิปชำระเงินผ่าน FB พนม พระเครื่อง

3. สั่งเช่าบูชาผ่าน Line ID 0817746959 ส่งรูปพระเครื่องวัตถุมงคล พร้อมรหัสสินค้า

โอนเงินธนาคารที่สะดวก

ส่งสลิปชำระเงินผ่าน Line

4. สั่งเช่าบูชาทางโทรศัพท์ 081-774-6959

แจ้งรหัสพระเครื่องวัตถุมงคลที่ต้องการสอบถามรายละเอียดต่างๆ

โอนเงินธนาคารที่สะดวก

โทรแจ้งชำระเงิน ธนาคาร จำนวนเงิน วันเวลาในสลิป 


ร้านแอมมิวเล็ทเซเว่นยินดีให้บริการทุกท่าน
ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุน

 

การจัดส่งพระเครื่องวัตถุมงคลและติดตามพัสดุไปรษณีย์

 

รูปแบบการจัดส่งภายในประเทศ พื้นที่จัดส่ง ระยะเวลา
EMS เก็บ 50 บาท/ครั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล 1-2 วันทำการ
  จังหวัดอื่นๆ ในประเทศ 2-3 วันทำการ
ลงทะเบียน เก็บ 30 บาท/ครั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล 2-3 วันทำการ
  จังหวัดอื่นๆ ในประเทศ 3-5 วันทำการ
(หากจัดส่งไปต่างประเทศ คิดตามระยะทาง และ น้ำหนัก ที่ทาง ปณ.กำหนด)
Tags

ช่องทางชำระเงิน

เลือกช่องทางที่คุณสะดวก เพื่อชำระเงินให้ร้านค้าโดยตรง หากมีข้อสงสัย กรุณา ติดต่อเรา

โอนเงินบัญชีธนาคาร
บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง ออมทรัพย์
พูดคุย-สอบถาม