พุทธคุณ
ความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังชนิดต่าง ๆ ขึ้นมาเพราะว่าในความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์นั้น ความเชื่อประการที่ 3 ว่า
1. ความเชื่อเรื่องคาถาอาคมและเครื่องรางของขลัง สามารถนำอำนาจลึกลับนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ตามที่ตนต้องการ ด้านคติชนวิทยาของชาวพุทธทั่วไปกลัวพระ ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์พระพุทธรูปหรือวัตถุอย่างอื่นที่พระสงฆ์ได้ทำพิธีปลุกเสก (เม็ดทราย ข้าวสาร ด้ายสายสิญจน์ผ้ายันต์) นอกจากนั้นแล้วยังมีคาถากันผีไล่ผีและจบผีอีกด้วย โดยสรุปถือว่าอำนาจมาจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์สามารถป้องกันผีร้ายได้ในทางปฏิบัติแล้วคือพระสงฆ์มักจะเป็นผู้กระทำพิธีต่าง ๆ เพื่อการปกป้องและกำจัดผี
ร้าย อีกประการหนึ่งบรรดาเกจิอาจารย์หรือเหล่าคณาจารย์ที่ได้เคยบวชเรียนมาแล้วก็มีความทางเวท
มนตร์และสามารถบังคับให้ผีต่าง ๆ มาเป็นลูกมือของตนเพื่อให้ปฏิบัติการด้านไสยศาสตร์ตามที่ตนต้องการอีกด้วย
2. ความเชื่อในข้อปฏิบัติหรือปฏิปทาของเกจิอาจารย์ หมายถึง เชื่อว่าพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีศีลบริสุทธิ์ย่อมจะมีพลังจิตที่ทำให้สามารถคิดได้ว่าอาจเป็นผู้บรรลุฌานสมาบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงเป็นเหตุให้มีผู้สร้างพระเครื่องบูชาขึ้นมา และถ้าหากได้จัดพิธีปลุกเสกหรือพุทธาภิเษกแล้ว ย่อมจะทรงพลังอำนาจขึ้นในวัตถุมงคลนั้น ๆ เพราะว่าเกจิอาจารย์ได้มาร่วมแผํพลังเมตตาจิต ตลอดจนพลังจิตบริสุทธิ์ลงมาในมวลวัตถุมงคลเหล่านั้นด้วย รวมทั้งการที่มีศรัทธาเป็นทุนเดิมในพระคณาจารย์อยู่เป็นทุนเดิม เช่นสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) หลวงปู่แหวน หลวงพ่อสด หลวงพ่อคูณ เป็น อาทิ เมื่อพระคุณเจ้าเหล่านั้นสร้างหรือเป็นผู้ทำพิธีเองแล้วย่อมเกิดความเชื่อว่าจะต้องขลังและศักดิ์สิทธิ์แน่นอน
3. คำเล่าลือเรื่องพุทธานุภาพ หมายถึง การได้รับรู้เรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอิทธิฤทธิ์หรือความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคล เช่น เมื่อปรากฏว่ามีผู้ถูกยิงแต่ไม่เข้าและมีพระเครื่องติดสร้อยห้อยอยู่ที่คอก็ทำให้เชื่อว่าพระเครื่องดังกล่าวมีพุทธคุณในด้านคงกระพันชาตรีก็ทำให้เกิดการบอกเล่าต่อ ๆ กัน มาจนกระทั่งทำให้เกิดความเชื่อเช่นนั้น หรือ เมื่อเกิดอุบัติทางรถยนต์หรือเครื่องบินตก แต่มีผู้รอดชีวิต และผู้รอดชีวิตนั้นห้อยพระเครื่องติดตัวอยู่ ก็ทำให้ผู้คนทั่วไปเชื่อว่าพระเครื่องมีพุทธคุณด้านแคล้วคลาดปลอดภัย หรือบางคนมีหน้าที่การงานที่ดีขึ้นตั้งแต่มีพระเครื่อง ก็ทำให้มีความเชื่อมั่นในอานุภาพ
แห่งความศักดิ์สิทธิ์ จนกระทั่งกลายเป็นความเชื่อมั่นของสังคมส่วนใหญ่ในที่สุด
นักวิชาการทางพระพุทธศาสนาต่างก็เห็นพ้องกันว่า อิทธิปาฏิหารย์ของวัตถุมงคลเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้สูง เพราะว่ามีพลังในการแผ่เมตตาจิตของพระสงฆ์สัมมาปฏิบัติทั้งหลายเมื่อพระผู้ทรงเมตตาธรรมได้อธิษฐานจิตลงในวัตถุมงคลต่าง ๆ นั้นก็ย่อมจะเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจลึกลับแฝงอยู่ได้เช่นเดียวกัน เพราะเหตุนั้นความศักดิ์สิทธิ์หรือปาฏิหาริย์ของวัตถุมงคลเหลำนั้นจึงสามารถเกิดขึ้นด้วยพลานุภาพดังต่อไปนี
1. พุทธานุภาพ หมายถึง ความเชื่อมั่นในพระพุทธคุณที่ทรงบริสุทธิ์ปรากศจากกิเลสาวะทั้ง ปวงและทรงประกอบด้วยพระคุณ 3 ประการ คือบริสุทธิคุณ มหากรุณาธิคุณ และปัญญาคุณ
2. ธรรมานุภาพ หมายถึง พลังธรรมานุภาพของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ปรากฏอยู่ตามบทสวดต่าง ๆ เช่น เมตตสูตร รตนสูตร อย่างที่เรียกว่า สวดพระปริตรรที่อาจจะขจัดปัดเป่าภยันตรายทั้งปวงได้นั่นเอง
3. สังฆานุภาพ หมายถึง อานุภาพแห่งพระอริยสงฆ์และพระสงฆ์สัมมาปฏิบัติทั้งหลายจนสามารถจะแผ่พลังจิตให้มาอยู่ในสิ่งที่ต้องการได้
4. ปุญญานุภาพ หมายถึง อานุภาพของบุญกุศลคุณงามความดีและการกระทำผลกรรมดีงามของบุคคลต่าง ๆ ซึ่งเข้ากับคำว่าที่ว่าคนดีมีบุญพระคุ้มครอง
5. เทวนุภาพ หมายถึง อานุภาพแห่งเทพยดาที่ชาวพุทธต่างก็ล้วนเชื่อมั่นพระพุทธรูปต่าง ๆ จะมีเทวดารักษาอยู่ด้วยบรรดาพลานุภาพทั้งหมดเหลำนี้สามารถจะเป็นพลังที่มีอำนาจซึ่งดลบันดาลหรือทำให้เกิดปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ได้
หน้าที่เข้าชม | 4,053,916 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 3,205,856 ครั้ง |
เปิดร้าน | 28 ต.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |