น้ำมันโบราณในตำรามหาเสน่ห์ชั้นสูงในตำนานของสายเขาอ้อ

โดย อ.สิทธิชัย โหรบัณฑิต บรรจุพุทธคุณโดย อ.ประสูติ วัดในเตา จ.ตรัง
สุดยอดมหาเสน่ห์ ศาสตร์สายมโนราห์แดนใต้

คำว่า"ร้อยชู้"ได้จากมวลสารที่ใช้สร้างมีจำนวนถึง 100 จำพวก และกว่าจะได้ครบทุกอย่างใช้เวลาสะสมถึง 7 ปี แต่เดิมน้ำมันนี้มีโบราณเลยระบุว่ามีฤทธิ์ทางเสน่ห์ขั้นสูงผู้ครอบครองสามารถมีชู้ได้ถึงร้อย แต่เพราะสมัยก่อนสิทธิของมนุษย์ยังแตกต่างกันตามฐานันดร และชายมีอำนาจมากกว่าผู้หญิงแล จะเอามาเปรียบกับสมัยนี้ก็กระไรอยู่แต่ถ้าจริงๆแล้วตัวนี้ในยุคนี้จะเหมาะกับการทำมาหากินจะดีที่สุด โบราณว่าไว้ "เรียนเหน่ ไปไหนไม่อดตายเเล" 

วิธีใช้ยารักร้อยชู้และน้ำมันรักร้อยชู้ ในตำราของสำนักเขาอ้อ อ.สิทธิชัย ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อทำเสร็จ จะแยกเป็นสองส่วน

ส่วนแรกเป็นน้ำมันตามตำราปลุกเสกแล้วน้ำมันจะมีสีดั่งเลือด

ส่วนที่สองนำว่านมาตากแห้ง แล้วบดเป็นผงก็จะมีสีดั่งสีเลือดและจะกลายเป็นของธนสิทธิ์ จึงไม่ต้องใช้คาถา ให้ระลึกถึง อาจารย์เขาอ้อ ทวดเคว็ด ขนทองแดง แม่จันทร์เทวีและ ตาพรานจัน ตั้งจิตให้มั่นแล้วอธิษฐานเอาครับ ซึ่งจริงๆแล้ว น้ำมันรักร้อยชู้สามารถปรับใช้ได้หลายอย่าง ไม่ใช่เพียงด้านเสน่ห์ทางชู้สาวอย่างเดียว แต่มีสรรพคุณที่ครบครัน ทั้งด้านเสริมโภคทรัพย์ เสริมเมตตา เสริมดวงโชคลาภ ด้านการงานทุกรูปแบบงาน.
มัดใจคนรักคู่ครอง

ยารักร้อยชู้เกิดจาก การผสมจากตัวยา+ตัวว่าน( มวลสาร ) 
ที่มี ดอก ใบ ผล ราก ก้าน ต้น น้ำมัน ผง ครบ ๑๐๐ ชนิดพอดี

พิธีเสกให้ครบ ๙ วาระ ให้ได้ ๖ จันทร์ ๓ เพ็ญ ในคืนวันจันทร์
และวันเพ็ญข้างขึ้นเท่านั้นจะมีเสน่ห์หามียาเสน่ห์ใดเทียบได้
เสกบริเวณโบสถ์ บ้าน ป่าช้า นา ป่า น้ำ ดอน เขาควน

หัวว่าน ๒๑ ชนิด ( แทนคุณบิดา๒๑ )

ใบ ๗ จำพวก ( แทนพระธรรม๗คัมภีร์ )

ยอด ๗ จำพวก ( แทนสัปปุริสธรรม๗ )

ดอก ๗ จำพวก ( แทนวันทั้ง๗ )

ชัน ๓ จำพวก ( แทนรัตนตรัย )

น้ำมัน ๑๒ จำพวก ( แทน๑๒ราศี )

ผง ๑๖ ชนิด ( แทนพระเจ้า๑๖พระองค์ รวมเป็นโสฬส )

สัตว์ ๓ ชนิด ( แทนไตรภพ )

ราก ๕ ชนิด ( แทนพระเจ้า๕พระองค์ )

ผล ๘ จำพวก ( แทนมรรคมีองค์๘ )

ขี้ผึ้ง ๓ จำพวก ( แทนพระพุทธคุณ๓ประการ )

น้ำ ๔ จำพวก ( แทนอริยสัจ๔ )

กาฝาก ๔ ชนิด ( แทนธาตุ๔ )

เมื่อนำมวลสารทุกชนิดมารวมกันจะได้สูตรสำเร็จ ๑๐๐ พอดี นี่คือที่มาของคำว่า ร้อยชู้ ที่เกิดจากมวลสาร ๑๐๐ จำพวก ที่มาจากธรรมชาติ ที่มีการพึ่งพาอาศัยกัน มาจากธรรมชาติที่ สมสู่ สมจรข้ามสายพันธุ์ไปเกี่ยว ไปพัน ไปรัด ไปมัด ไปงอก หรือไปเจริญเติบโต อยู่ที่ต้นไม้อื่น หรืออยู่ที่ พันธุ์ไม้ชนิดอื่น ที่มีชื่อเป็นไม้ที่เป็นมงคล อาทิเช่น ถ้าจะเอาใบรักก็ต้องไปหาต้นรักที่งอกอยู่ใต้ต้นยอ,ต้นขนุน ต้นโพธ์ 

ถ้าจะเอาใบยอ ก็ต้องไปหาที่งอกบนต้นไทรหรือที่มีชื่อมงคล เช่น(บนต้นโพธิ์ที่วัดท่าแค เป็นจุดที่ฝังอัฐิของพ่อขุนศรัทธา) 

ถ้าจะเอาว่านดอกทอง ให้ไปเอาที่งอกอยู่ในกอว่านชนิดอื่น เช่นงอกอยู่ในกอว่านเสน่ห์จันทร์ 

ถ้าจะเอาพญาว่าน ก็ต้องเอาที่ว่านชนิดอื่นล้อมรอบ

ถ้าจะเอาว่าน ที่เป็นเถาว์ ก็ให้ เอาเถาว์ที่พันกับว่านชนิดอื่น เช่น เครือเถาว์หลง ไปพันกับต้นกาหลง หรือพันอยู่กับต้นรัก หรือว่าน ที่พันกันเองเป็นช่อ เป็นเงื่อนเป็นปมจนแกะไม่ออก

ถ้าเอาว่านที่ต้นไปอาศัยอยู่กับต้นไม้อื่นต้องหาแบบไปงอก ไปพาด ไปพิงไปอาศัยแบบกาฝากซึ่งบางสายพันธุ์หหายากมาก เพราะต้องใช้ว่านจำพวกนี้ลักษณะนี้ทั้งหมดจะต้องดูวัน ดูฤกษ์ ดูทิศของว่าน และเวลาเข้าไปเด็ดจะต้องใช้เคล็ดวิชา  พลีเอามา แม้แต่สัตว์สามจำพวกก็ต้องพลีเอามาตอนทีกำลัง สมสู่ สมจรกัน อยู่ด้วยกัน กำลังรักกันต้องใช้เคล็ดวิชาทั้งสิ้น

คนโบราณจึงให้ชื่อยานี้ว่า รักร้อยชู้ เมื่อผ่านการ ปลุกเสก
เพิ่มเติม ประจุด้วยพลังด้านเสน่ห์เมตตา เข้าไปแล้วจึงส่งผล
ต่อด้านเมตตาบารมี ในตำราระบุไว้ว่าถ้ามีชู้จะมีได้ถึงร้อยนั้น
เหตุเพราะสมัยโบราณผู้ชายสิทธิเป็นใหญ่มากกว่าผู้หญิงจึง
ไม่สามารถห้ามสามีตนไม่ให้มีหญิงอื่นได้ แต่ปัจจุบันภายใต้
กฎหมายและสิทธิ ที่เท่าเทียมกัน ครั้นจะให้ได้สักร้อยคนคง
ต้องนึกถึงผลที่จะตามมาด้วย
พุทธคุณแฝงไปด้วย ความเมตตา และความเป็นเสน่หาอย่างเต็มตัว
แต่พุทธคุณจะเต็มร้อย ต้องใช้อย่างมีสติ ไม่ผิดศีลธรรมครับ